นอกจากการใช้วัสดุที่มีความยั่งยืนแล้ว TOY ยังมุ่งเน้นการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมโดยตรงผ่านกิจกรรมเวิร์คช็อปต่างๆที่จะมีการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าการซื้อสินค้าของ TOY ไม่ได้เพียงแค่เป็นการซื้อผลิตภัณฑ์ เเต่ยังเป็นการสนับสนุนสิ่งแวดล้อมและสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงโลกไปสู่แนวทางการทำธุรกิจโดยยึดหลักความยั่งยืน ทั้งต่อโลก ต่อสังคม และต่อผู้คน ยกตัวอย่างเช่น TOY มีโครงการรับคืนเสื้อผ้าเก่าจากลูกค้าเพื่อนำไปผ่านกระบวนการรีไซเคิลเป็นเส้นใยใหม่ หรือการจัดเวิร์คช็อปเพื่อสร้างเครือข่ายผู้ผลิต-ผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจตามหลักความยั่งยืน นอกจากนี้จะมีการสนับสนุนโครงการสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่มีเป้าหมายในการสร้างมวลชนให้เข้าใจถึงประเด็นที่สำคัญเกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
“ทุกท่านทราบหรือไม่ว่าในปี 2573 หรือในอีก 6 ปีข้างหน้าคือปีที่นักวิชาการเรียกว่า "เส้นแบ่ง" หมายถึง หากมนุษย์ไม่ปรับตัวในการใช้ชีวิต และยังคงทำลายธรรมชาติแบบนี้ต่อไป เมื่อเกินจากจุดนั้นไปแล้วจะไม่สามารถถอยกลับ หรือแก้ไขอะไรได้อีกแล้ว ระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นจนเกิดปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก ก็เป็นหนึ่งในสิ่งที่จะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องและจะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ
สุทัศน์ (ผู้จัดการแบรนด์ Thinking Of You) ให้สัมภาษณ์
"ปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่า ประเทศในแถบยุโรป รวมถึงประเทศญี่ปุ่นได้ให้ความสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจแบบยั่งยืนอย่างมาก นอกจากนี้ในวงการรถยนต์ก็จะเห็นว่ายอดขายรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก มียอดขายแซงรถยนต์ใช้น้ำมันหลายๆแบรนด์เลยทีเดียว จากนี้ไปเชื่อว่าในทุกวงการจะหันมาโฟกัสเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น เราในฐานะหนึ่งในผู้นำในอุตสาหกรรมเสื้อผ้าจึงขอDisruptตัวเอง ด้วยการเปลี่ยนแนวทางการดำเนินธุรกิจ โดยยึดหลักความยั่งยืนในการพัฒนาและผลิตสินค้าใหม่ๆ ผลิตภัณฑ์ของเราจะเลือกใช้เฉพาะวัสดุที่มีความยั่งยืน อาทิเช่น เส้นด้ายรีไซเคิลที่นำผ้าที่ไม่ใช้แล้วมาผ่านกระบวนการตีเป็นเส้นใยใหม่และทอออกมาเป็นผ้าใหม่อีกครั้ง, หรือจะเป็นเส้นด้ายค็อตตอนคาร์ดที่ลดการเกิดขยะในขั้นตอนหวีเส้นใยได้ถึง15%, รวมถึงการนำผ้าคุณภาพดีที่เหลือจากออเดอร์ปกติมาพัฒนาเป็นสินค้าใหม่แทนการทิ้ง เป็นต้น”
"หลายท่านอาจจะทราบอยู่แล้วว่า การรีไซเคิลวัสดุเหล่านี้ให้กลับมามีชีวิตใหม่อีกครั้งนั้น มีต้นทุนในการผลิตที่สูงกว่าการผลิตแบบปกติทั่วไปเสียอีก จึงทำให้หลายๆครั้งสินค้าที่ผลิตจากวัสดุรีไซเคิลจะมีราคาแพงกว่าสินค้าทั่วไป แต่ด้วยการที่เราเป็นแบรนด์ที่มาจากโรงงานโดยตรง จึงทำให้เราสามารถตัดคอสในส่วนพ่อค้าคนกลางออกไป และนำงบมาเติมเข้าไปที่คอสด้านวัสดุ บวกด้วยความร่วมมือจากคู่ค้าซัพพลายเออร์หลายๆแห่ง จึงทำให้เราสามารถทำราคาสินค้าออกมาในระดับเดียวกับเสื้อผ้าที่ใช้วัสดุทั่วไปได้"
สุทัศน์ เล่าถึงคอนเซ็ปต์แบรนด์ Thinking Of You และเล่าถึงกระบวนการพัฒนาและผลิตสินค้าเพิ่มเติมว่า
"จากการที่แบรนด์นี้เป็นแบรนด์ที่สร้างจากโรงงาน เราจึงสามารถควบคุมการผลิตได้ตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และที่สำคัญเราสามารถเลือกวัสดุหลักซึ่งก็คือผ้าได้อย่างอิสระ สามารถลดต้นทุนในส่วนพ่อค้าคนกลาง และนำต้นทุนส่วนนั้นมาใส่ลงไปในต้นทุนค่าวัสดุอย่างเต็มที่ จึงออกมาเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีความยั่งยืน, มีคุณภาพดี แต่ราคาไม่สูงไปกว่าสินค้าทั่วไป นอกจากเราจะมีโรงงานผลิตผ้า และโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้าเป็นของตัวเองแล้ว ยังได้ผู้เชี่ยวชาญด้านการพัฒนาสินค้าที่มีประสบการณ์จากแบรนด์ดังของญี่ปุ่น และยังได้ดีไซเนอร์ชื่อดังชาวญี่ปุ่นมาร่วมทีมด้วย บวกกับทีมงานคนรุ่นใหม่ชาวไทย ทั้งในส่วนการผลิต และการตลาดมาร่วมกันทำงานอย่างหนัก จนออกมาเป็นสินค้าในแบรนด์นี้"
ดังนั้น Thinking Of You : TOY จึงเป็นตัวอย่างของแบรนด์เสื้อผ้ายุคใหม่ ที่เกิดมาเพื่อแก้ไขปัญหาผลกระทบจากอุตสาหกรรมเสื้อผ้าแบบเดิมๆ โดยเป็นการผสมผสานระหว่างการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสูง, สวยงามมีเอกลักษณ์ ไปพร้อมกับการใช้วัสดุที่มีความยั่งยืน และการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อคนรุ่นหลังต่อไป